คล็อปป์สั่งย้ำ แข้งลิเวอร์พูลอย่าจุดโฟกัสเพียงแต่ลูกาเรา

คล็อปป์สั่งย้ำ ระวังคนอื่นด้วย!คล็อปป์สั่งย้ำแข้งลิเวอร์พูลอย่าจุดโฟกัสเพียงลูกาเรา

คล็อปป์สั่งย้ำ เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมฟุตบอล ลิเวอร์พูล ชี้สมาชิกไม่ควรจุดโฟกัสไปที่ โรเมลู ลูกากู เป็นหลัก สำหรับในการดวลกับ เชลซี วันเสาร์นี้ พร้อมมอง “สิงห์บลูส์” เสริมกองทัพฉลาดมาก ที่เลือกดึง ลูกาเรา มาช่วยเลื่อนฐานะการจบสกอร์

คล็อปป์สั่งย้ำ

เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ ลิเวอร์พูล แน่ใจว่า ผู้ร่วมทีมของตนเองไม่ควรมัวแต่รอคอยระวัง โรเมลู ลูกาฉัน แผงหน้าตัวเก่งของ เชลซี เหตุเพราะ “สิงห์บลูส์” มีผู้เล่นตัวทีเด็ดอีกเพียบเลยในแนวรุก โดย “หงส์แดง” มีคิวเปิดรัง แอนฟิลด์ จัดแจง เชลซี ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดบิ๊กแมตช์ วันเสาร์ที่ 28 เดือนสิงหาคมนี้ เดินหน้าเก็บแต้ม

ลูกาฉัน ที่พึ่งพิงจะย้ายมาจาก อินเตอร์ มิลาน ทำแต้มให้กับ เชลซี ได้ทันทีทันใดในเกมตอนนี้ที่บุกไปเอาชนะ อาร์เซน่อล 2-0 เมื่อสุดสัปดาห์ก่อน ซึ่ง คล็อปป์ ก็เห็นด้วยว่า หัวหอกร่างยักษ์ชาวเบลเยียมวัย 28 ปี เป็นดาวยิงที่อันตรายมาก แต่ก็น่าจะให้ความสำคัญกับนักเตะบุคคลอื่นของกรุ๊ปคู่แข่งขันด้วยด้วยเหมือนกัน

“คุณสามารถพาดหัวเรื่องแบบไหนก็ได้จากที่คุณอยากได้ เกี่ยวกับการดวลกับระหว่าง โรเมลู และ เฟอร์จิล (ฟาน ไดค์) แต่ผมรู้สึกว่า เขา (ลูกากู) จะรอคอยปั่นป่วนปราการหลังผู้อื่นด้วย ผมคิดอย่างนั้นนะ”

“ถ้าหากคุณได้ดูเกมที่พวกเขาเจอกับ อาร์เซน่อล ล่ะก็ จะเห็นได้ว่า ประตูแรกของพวกเขามาจากลูกครอสที่ยอดเยี่ยมของ รีซ เจมส์ รวมถึงเป็น โรเมลู ที่ยิงเข้าไป ซึ่งจังหวะนั้นคุณได้แลเห็นวิธีการทำร้ายคู่กองหลังตัวกลาง ของเขา ที่พุ่งเข้าไปจบสกอร์ในกรอบจุดลูกโทษได้อย่างไม่ยากเย็น”

“ส่วนอีกประตูจาก รีซ นั่นก็เป็นด้วยความที่หนทางเล่นของ อาร์เซน่อล ที่อุตสาหะอุดกลาง (เพื่อหยุด ลูกาฉัน) ก็เลยแปลงเป็นปล่อยให้ รีซ ได้ยืนอยู่เตียนๆตรงกรอบ 18 หลา ด้วยเหตุดังกล่าวถ้าหากว่าเรามัวแต่จุดโฟกัสไปที่ โรเมลู นักเตะอย่าง ไค (ฮาแวร์ตซ์) และ เมสัน (เมาท์) จะลงทัณฑ์คุณอย่างฉับพลัน”

“ฤดูก่อนหลายๆคนต่างพูดกันว่า เชลซี เล่นดี หากแม้มักจบสกอร์ไม่ค่อยได้ นั่นแหละคือเหตุผลที่ทำให้พวกเขาเซ็นสัญญากับ โรเมลู ถือว่าเป็นการทำธุรกิจที่ฉลาดนะ หากแม้ข้อดีของบอลเป็น มันไม่มีบอลแบบไหนที่คุณไม่สามารถคุ้มครองป้องกันได้” ยอดที่ปรึกษาชาวเยอรมันวัย 54 ปี กล่าว

โรเบิร์ตสันกลับมาแล้ว,ฟานไดค์ดวลลูกาฉัน!พินิจพิจารณา 5 สาระสำคัญ ลิเวอร์พูล ปะทะ เชลซี

จำเป็นที่จะต้องบอกเลยว่า “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล จัดเตรียมเจอกับบททดสอบในเกมพรีเมียร์ลีก อาทิตย์นี้ เมื่อพวกเขาจึงควรประมือกับ “สิงโตสีน้ำเงินคราม” เชลซี ที่สนามแอนฟิลด์ ในวันเสาร์ที่ 28 สิงหาคมนี้
ทั้ง 2 กรุ๊ปทำผลงานได้อย่างดียิ่งเยี่ยมในสองแมตช์แรกเมื่อเก็บชัยได้เรียบวุธ และไม่เสียประตู ทำให้พวกเขารั้งตำแหน่งจ่าฝูงร่วม แต่ในเกมนี้มีความเป็นไปได้สูงที่จะมีผลการแข่งขันชิงชัยแพ้หรือชนะ มากกว่าผลเสมอ ผลบอล7M

เชลซี แล้วก็ ลิเวอร์พูล เป็นกรุ๊ปที่มีเกมรุกเต็มไปด้วยความสามารถ ในเวลาที่เกมรับก็อดทนเสมอภาค ดังนี้นี่จะเป็นแมตช์ที่จะจำเป็นต้องชิงไหวชิงพริบกันในทุกๆตำแหน่งแล้วก็ถ้าใครเป็นข้างทำผิดพลาด จังหวะที่จะเสียประตูมีค่อนจะสูงอย่างยิ่งจริงๆ

1. ซิมิคาสจำเป็นต้องคืนตำแหน่งให้ “ร็อบโบ้”

สำหรับตำแหน่งตัวบุกปีกซ้ายในตอนแรกสาวก “เดอะ ค็อป” บางทีอาจรู้สึกกลัดกลุ้มพอเหมาะจากการที่ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน มีปัญหาเจ็บในตอนเตรียมการปรีฤดู ถึงแม้ คอสตาส ซิมิคาส สามารถลงมาทำหน้าที่แทนเจริญรุ่งเรืองพอดี

แม้ในเกมแรกที่ชนะ นอริช สิตี้ ผลงานของ ฟูลแบ็กชาวภาษากรีก มีปัญหาอยู่บ้างโดยเฉพาะในเรื่องเกมรับและความเชื่อมั่นและมั่นใจสำหรับการเล่น ทำให้โดนว่ากล่าวพอสมควร ถึงแม้ว่าสำหรับแมตช์ที่สอย เบิร์นลี่ย์ เจ้าตัวได้รับคำชื่นชมทั้งเกมรับ แล้วก็เกมรุก

อย่างไรก็แล้วแต่ช่วงนี้ โรเบิร์ตสัน กลับมาฟิตบริบูรณ์แล้ว แล้วก็แน่นอนว่าปัญหาก็คือเขาจะเอากลับคืนตำแหน่งทันทีหรือไม่ ในเมื่อตัวบุกปีกซ้ายกรุ๊ปชาติกรีซ โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม แล้วก็เหมาะสมที่จะได้ลงเล่นในเกมประมือ เชลซี

งานนี้ดูเหมือนกับว่าคำตอบคงออกมาที่ “ร็อบโบ้” หวนตัวจริง ส่วน ซิมิติดอยู่ส ก็ต้องยอมรับสารภาพภาวการณ์ เนื่องจากว่าหากมองจากข้อเท็จจริง ตัวรุกชาวสกอตติช มีประสบการณ์ในเกมใหญ่อย่างนี้ แล้วก็น่าจะจัดแจงเกมรุกของ “สิงห์บลูส์” ได้ดีมากยิ่งกว่า

2. ฟาน ไดค์ ไม่เคยแพ้ในบ้านเกมลีก

สิ่งที่ ลิเวอร์พูล จะต้องระวังให้ดีๆซึ่งก็คือเกมรุกของ เชลซี โดยเฉพาะการที่พวกเขามี โรเมลู ลูกากู ยืนทำหน้าที่ล่าตาข่าย เพราะว่าระยะนี้ “พี่ตู้” เต็มไปด้วยความเชื่อมั่น คราวหลังเล่นได้อย่างสะดุดตาในเกมชนะ อาร์เซน่อล เมื่อสุดสัปดาห์ก่อน

จอมบุกกรุ๊ปชาติเบลเยียม เต็มไปด้วยความแข็งแกร่ง แล้วหลังจากนั้นก็เร็ว แถมยังสามารถวิ่งหาพื้นที่ว่างในการทำแต้มได้อย่างชาญฉลาด แล้วหลังจากนั้นก็ยังมีการจบสกอร์ที่เฉียบคม นี่เป็นสิ่งที่้เกมรับ “หงส์แดง” ต้องระวังเอาไว้ให้ดีๆ

แม้ว่า “เดอะ เร้ดส์” มี เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ที่พร้อมจะประมือความแข็งแกร่งของ ลูกากู โดย จอมบุกชาวฮอลล์แลนด์ กลับมาฟิตบริบูรณ์ และเป็นหัวใจในแนวรับที่ ลิเวอร์พูล จำเป็นจะต้อง โดยเห็นได้ชัดกับผลงาน 2 แมตช์ก่อนหน้านี้

งานนี้บอกเลยว่า ลูกาฉัน คงจึงควรใช้ความแข็งแกร่งให้เต็มกำลังเพื่อผ่าน ฟาน ไดค์ เข้าไปทดสอบความหนึบของ อลีสซง เบ็คเกอร์ ซึ่งแน่นอนว่าการสู้กันของทั้งสองคนเกิดเหตุที่น่าสนใจเพราะว่าราวกับการเผชิญหน้าระหว่างสองยักษ์ใหญ่ในเกมรุกกับเกมรับ ผลบอลเมื่อคืน

สิ่งหนึ่งที่คงทำให้แฟนบอลลิเวอร์พูล อุ่นใจเมื่อเห็น ฟาน ไดค์ ลงคุมแนวรับก็คือ เขาไม่เคยนำกรุ๊ปแพ้ในการเล่นเกมลีกที่แอนฟิลด์ ด้วยเหตุดังกล่าวสถิตินี้ สาวก “เดอะ ค็อป” คงอยากที่จะให้มันยังคงอยู่ต่อไปอีกนาน

3. โชต้า ยังคงได้รับความไว้ใจ

ผลงานของ ดีเอโก้ โชต้า อาจก่อให้ คล็อปป์ ยากจะดร็อปเขาออกได้ และไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะแลเห็นเขาปฏิบัติหน้าที่สามประสานร่วมกับ ซาดิโอ มาเน่ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ในการปะทะกับ “ราชสีห์บูลส์”

โชต้า แสดงให้เห็นว่าเขาสามารถรวมบทหน้าเป้าได้ดีเยี่ยมเลิศ โดย ตัวรุกชาวโปรตุกีส เป็นพวกจมูกไว วิ่งหาพื้นที่ว่างเก่ง รวมทั้งมีความเฉียบคมสำหรับการจบสกอร์ โน่นทำให้เขาได้รับวิถีทางก่อน โรกางร์โต้ ฟีร์มีโน่ ในตอนแรกฤดูนี้

ยิ่งกว่านั้น ตัวรุกชาวโปรเหม็นตุกีส ซัดประตู 2 เกมแรกในพรีเมียร์ลีกฤดูนี้ รวมถึงเขาได้ช่องที่จะได้เป็นนักเตะคนที่ 4 ที่สามารถทำแต้มให้กับสังกัดเดิม 3 แมตช์ต่อเนื่องกัน โดยก่อนหน้านี้ที่ผ่านมามีเพียงแค่ ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ (1994-95), แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ (2013-14) รวมถึง มาเน่ (2017-18) ที่เคยทำเป็น

แน่นอนว่าสถิติกลุ่มนี้อาจจะไม่ใช่ประเด็นสำคัญของ โชต้า หากแม้มันคงจะทำให้เขาเต็มไปด้วยความทะเยอทะยาน รวมถึงความเอาจริงเอาจังสำหรับเพื่อการทำคะแนน เชลซี ให้ได้ ด้วยเหตุว่าถ้าหากเขาทำเป็นในแมตช์ต่อๆไป คล็อปป์ คงจะวางใจให้ลงเล่นตัวจริงอย่างสม่ำเสมอ

คล็อปป์สั่งย้ำ

4. มาเน่ ของแสลงสำหรับ เชลซี

ถ้าว่า คล็อปป์ จะมีแนวรุกให้เลือกใช้งานอีกทั้ง โชต้า, ซาลาห์ แล้วก็ ฟีร์มีโน่ ก็ตาม แม้กระนั้นสำหรับ มาเน่ บอกเลยว่า ผู้จัดการทีมฟุตบอลชาวเยอรมัน คงจะจำเป็นต้องส่งเขาลงสนามตั้งแต่นาทีแรก เนื่องด้วยนี่เป็นผู้เล่นที่ทำแต้มในเกมพบ เชลซี เยอะที่สุดของชมรมทุกวันนี้

จากการประลองในทุกรายการ จอมบุกชาวเซเนกัล ตะบันไป 7 ประตูจาก 17 เกมในแมตช์ที่จำต้องเจอกับ เชลซี โดยมีแค่เพียงเกมที่พบกับ คริสตัล พาเลซ (12 ประตู) และ แอสตัน วิลล่า (8 ประตู) ที่ มาเน่ ทำแต้มได้มากมายกว่าในตอนขณะที่กำลังทำมาหากินในอังกฤษ

ด้วยเหตุผลดังกล่าว มาเน่ ก็เลยเป็นผู้เล่นที่ทำให้แนวรับของกรุ๊ปยอดเยี่ยมต้องระวังเป็นอันมาก เนื่องจากปัจจุบันนี้ดูเหมือนกับว่าเขาจะเล่นด้วยความเชื่อมั่นและมั่นใจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆซึ่งสิ่งนี้แสดงออกมาให้แลเห็นจากฟอร์มในตอน 2 แมตช์แรกของฤดูนี้

ถ้าหาก แต่ก่อนตัวรุก “นักบุญ” เซาธ์แฮมป์ตัน สามารทำให้ตัวเองมีชื่อเป็นผู้กระทำประตูได้เสร็จในแมตช์นี้ ไม่เพียงแค่เป็นการเพิ่มสถิติความโหดเวลาที่ดวลกับเชลซีเท่านั้นเอง ถึงแม้ยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับเขาเยอะขึ้นเรื่อยๆด้วย

5. แผงมิดฟิลด์พลังเขยื้อนของ ลิเวอร์พูล

คล็อปป์สั่งย้ำ ในแผงมิดฟิลด์ถือได้ว่าเป็นอีกจุดหนึ่งที่สื่อความหมายเยอะแยะๆของ ลิเวอร์พูล ด้วยเหตุว่าพวกเขาจะได้ ฟาบินโญ่ กลับสู่กรุ๊ปตัวจริงอีกครั้ง คราวหลังสภาวะจิตใจน่าจะกลับมาธรรมดาจากการที่จะจำเป็นต้องสูญเสียบิดาไปแบบไม่ทันตั้งตัว

จริงๆแล้ว คล็อปป์ มีผู้เล่นในดินแดนกลางให้เลือกใช้งานคนไม่ใช่น้อย แต่ว่านักเตะที่จะทำให้หน้าโฮลดิ้ง มิดฟิลด์ รุ่งเรืองเยี่ยมที่สุดสำหรับ คล็อปป์ ก็คือ ฟาบินโญ่ เท่านั้น และก็งานนี้เขาคงจะได้กลับมาลงไปในสนามเดินคู่ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กัปตันกรุ๊ป “หงส์แดง”

ส่วน ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ที่ฟอร์มร้ายแรงอย่างมากในสองเกมแรก บางทีก็อาจจะต้องเป็นตัวสำรอง เพราะแมตช์นี้มีความตึงเครียดสูงมากไม่น้อยเลยทีเดียว ด้วยเหตุดังกล่าว คล็อปป์ บางทีอาจเลือกผู้เล่นที่มีประสบการณ์อย่าง อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, นาบี เกอิต้า หรือ ว่าขานอาโก้ อัลกันทาร่า เป็นตัวจริง

สำหรับตำแหน่งนี้มีความสำคัญมากๆเพราะถ้าดินแดนตรงกลางของ “เดอะ เร้ดส์” สามารถดับรัศมีของ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ และจากนั้นก็ จอร์จินโญ่ ได้ งานนี้สบโอกาสที่พวกเขาจะปราบกรุ๊ปของที่ปรึกษาโธมัส ทูเคิ่ล ได้อย่างยิ่งจริงๆ